เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 ผลักดันผ้าไหมอีสานสู่เวทีระดับโลก |
นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น |
การจัดงานประชุมนานาชาติ
เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 ภายใต้ชื่องาน “ไหมไมซ์” The Silk Road of Isan MICE จัดขึ้นเพื่อยกระดับผู้ประกอบการผ้าไหมและผ้าทอมือจากชุมชน
วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ประกอบการ SMEs หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มผู้ผลิตแบรนด์ผ้าไหมและผ้าทอมือ
ด้วยประเด็นสัมมนาผ้าไหม ผ้าทอมือ และไมซ์ ระดับนานาชาติ ในรูปแบบไฮบริดอีเวนต์
มีผู้เข้าร่วมงานผ่านระบบออนไลน์กว่า 1,500 ท่าน เส็บ รุก จัดงาน “ไหมไมซ์” The Silk Road of Isan MICE มุ่งยกระดับผ้าไหม ผ้าทอมือท้องถิ่นอีสาน
ให้โดดเด่น พร้อมผลักดันให้ไหมและผ้าทอมือเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก 27พ.ย.นี้ ณ
โรงแรมอวานีขอนแก่น
ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมผ้าไหมและผ้าทอมือ
ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์และการเชื่อมโยงวิถีชีวิตของชาวอีสาน
สามารถสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน ด้วยเหตุนี้
ทีเส็บได้นำจุดเด่นของทั้งสองอุตสาหกรรมมาร่วมผลักดันเพื่อสร้างให้ไหมและผ้าทอมือมีความโดดเด่น
และยกระดับสู่ตลาดนานาชาติ พร้อมผลักดันให้ไหมและผ้าทอมือเป็นที่ยอมรับ
ตลอดจนสามารถสร้างเส้นทางสายไหมให้แก่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเดินทางไมซ์ที่พลาดไม่ได้
นายวรทัศน์
ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า
จังหวัดขอนแก่นรู้สึกเป็นเกียรติได้เป็นเจ้าบ้าน ต้อนรับพันธมิตรทุกท่านที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อ
“ผ้าไหมและผ้าทอมืออีสาน” หนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุด
สร้างชื่อเสียงมากที่สุด
และสร้างรายได้ทางตรงสู่ชุมชนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมากที่สุด
วันนี้เราได้มืออาชีพด้านการจัดงานระดับนานาชาติมาเป็นหัวเรือหลักให้กับไหมอีสาน
เกิดเป็นงานที่ผมเองรู้สึกเต็มไปด้วยความหวังว่า
ไหมอีสานจะยิ่งรุ่งเรืองเฟื่องฟูไปทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
นางสาวศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) |
ด้านน.ส.ศุภวรรณ
ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) กล่าวว่า
สสปน.ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบูรณาการของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ้าไหม
ผ้ามือทอ เป็นอุตสาหกรรมที่โดดเด่นมาก การจัดงานนี้จะรวบรวมองค์ความรู้ผ้าไหม
ผ้าทอมือไว้ในงานนี้ ทั้งยังมีวิทยากรกว่า 30
คนจากทั่วประเทศมาให้ความรู้ด้านผ้าไหม ผ้าทอมือ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการแปรรูป
การออกแบบดีไซน์ และมีตัวอย่างสินค้าทั้ง 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มาร่วมออกบูธด้วย
การสร้างงานไมซ์
และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์และเชื่อมโยงวิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวในอีสาน
โดยชูสินค้าประเภทผ้าไหมและผ้าทอมือให้โดดเด่นระดับนานาชาติ
เพิ่มพูนองค์ความรู้ให้กับชุมชนและประชาชนต่อยอดสินค้าท้องถิ่น
พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้าใจเรื่องไมซ์
โดยประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องถิ่น
สร้างมูลค่าเพิ่มกับสินค้าและประสบการณ์กับชุมชน ตลอดจนประชาสัมพันธ์ภาคอีสาน
ให้เป็นที่รู้จักทั้งระดับประเทศและนานาชาติได้
ส่วนนายสมบัติ กองภา ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น กล่าวว่า “ภาคอีสานนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าไหมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำแล้ว ผ้าไหมยังเป็นภูมิปัญญาที่สามารถพัฒนา ไปสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและไมซ์ได้ ภาคอีสานมีชุมชนทอผ้าไหมจำนวนมากที่พร้อมรองรับนักเดินทาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าจะประทับใจและยังเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เด็กและเยาวชนได้สืบสานวัฒนธรรมไทย นักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้ประสบการณ์แบบใหม่ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
ด้านดร.
สุรภีร์ โรจนวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการค้าหัตถกรรมไทย กล่าวว่า
ขณะนี้ผู้ซื้อจากทั่วโลกต่างมองหาผ้าที่เป็น “หัตถกรรม” ไม่ใช่งานจากอุตสาหกรรม
ผู้สวมใส่ก็มองหาสินค้าที่มีความหมาย มีเรื่องราว ดังนั้นเสน่ห์ผ้าไหมไทยที่ประณีต
ละเอียด บรรจง ผ่านการทอจากมือของช่างทอท้องถิ่น เป็นจุดแข็งที่ทั่วโลกมองหา
ก้าวต่อไปของผ้าไหมไทยจึงเป็นเรื่องการส่งเสริมด้านตลาด
และความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับงานผ้าไหมไทย
ซึ่งในงานประชุมเส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 เป็นโอกาสที่ดี
ถือเป็นการต่อยอดทั้งเรื่องของธุรกิจ นวัตกรรม รวมถึงองค์ความรู้ภายในงานเดียว
ขณะที่นายวิชระวิชญ์
อัครสันติสุข ผู้ออกแบบแบรนด์ WISHARAWISH กล่าวว่า “ในมุมกลับกันบางงานอีเวนท์เราสามารถเอาผ้าไทยที่ราคาไม่แพง
มาเพิ่มมูลค่าได้ เช่น ผ้าขาวม้า เราเอามาสกรีนลายเพิ่ม
เอาภูมิปัญญาสองชุมชนมาผสมกัน
เช่นเอาเทคนิคการย้อมผ้าแบบอีสานไปใช้กับผ้าไหมในภาคอื่นๆ
เอาผ้าจากอีสานไปทำบาติกแบบภาคใต้ กลายเป็นงานที่ Limited ไม่เหมือนใคร ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
ซึ่งงานประชุมนานาชาติครั้งนี้ น่าจะเป็นคลังความคิดสร้างสรรค์
นักออกแบบสายเลือดใหม่ น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก
อ.ส.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน #ร่วมสร้างสังคมให้น่าอยู่” ท่านสามารถติดตามรับฟังการรายงานสถานการณ์ข่าวสารต่างๆได้ ในรายการ ร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน จันทร์-ศุกร์. เวลา 14.00 -15.00 น ที่สถานีวิทยุ smilefm101http://www.smilefm101.com ความถี่ FM 101 mHz ขอนแก่น และ Facebook #ร่วมด้วยช่วยชาวบ้านฮอตนิวส์ขอนแก่น ติตต่อลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ โทร 063-4715698, 043-047474 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น