พระครูโพธิวชิราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย |
พระครูสิทธิสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดสระชัย เจ้าคณะอำเภอน้ำพอง |
พระมหาจริทธิ์ วชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดเขื่อนอุบลรัตน์ เจ้าคณะอำเภออุบลรัตน์ |
พระครูปริยัตสารกิจ เจ้าอาวาสวัดจอมแจ้ง เจ้าคณะอำเภอกระนวน |
พระราชประสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดเทพปูรณาราม รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น |
พระครูโพธิวชิราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย |
นายณัฐวุฒิ ถุนนอก ปลัดจังหวัดสิงห์บุรี |
พระครูสุวรรณสารวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดสระทอง รองเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดจันทรสิรินทราวาส |
มีนามเดิม เเขม ตาปราบ เกิดวันที่ ๑๐ ก.ย.๒๔๗๕ เกิดที่บ้านแก้งคร้อ ตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เป็นบุตรคนโตมีพี่น้อง ๑๐ คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา
ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระพุทธศาสนา อายุ ๑๔ ปี ได้ขอให้นำไปบรรพชา
จนถึงปี พ.ศ.๒๔๙๖ อายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสระทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ มีพระอธิการฟั่น จันทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์
หลังอุปสมบท ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีไสล บ้านหนองไฮ ตำบลช่องสามหมอ อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
ต่อมาได้ไปจำพรรษาปฏิบัติธรรมที่วัดโพธิ์กลาง ตำบลกุดเค้า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ
ด้วยความที่ต้องการศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจึงเดินทางลงไปศึกษาที่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ โดยมีพระมหาโชดก ญาณสิทธิ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ เป็นอาจารย์สอน และได้พบกับหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เเห่งวัดบ้านไร่ ขณะมาอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจฝากตัวศึกษาวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่จูม จังหวัดชัยภูมิ, หลวงปู่หล่ม พรหมโชโต วัดทุ่งสว่าง อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น
วัตรปฏิบัติชอบการออกธุดงค์ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น โดยเริ่มออกธุดงค์ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๙ เดินจาก จังหวัดขอนแก่น ไปตามป่าเขาในเขต จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๘ เมื่ออายุมากขึ้นและมีตำแหน่งทางปกครอง จึงไม่ค่อยมีเวลาอีก ต่อมาท่านได้มาจำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดจันทรสิรินทราวาส ตำบลบ้านโคก อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น จนตราบจนปัจจุบัน
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๑๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูสุวรรณธรรมากร
ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอกในราชทินนามเดิม
งานด้านปกครอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจันทรสิรินทราวาส พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี
พ.ศ.๒๕๕๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย
พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับแต่งตั้งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย
ด้วยความเป็นพระปฏิบัติดีเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์เสริมความเป็นสิริมงคลกับท่านอย่างไม่ขาดสายสำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค นำมาพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้ ก่อสร้างถาวรวัตถุอย่างมากมาย อาทิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว ประตูโขง หอระฆัง อุโบสถ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาของสงฆ์ บริจาคปัจจัยส่วนตัวให้การสนับสนุนการเรียนการสอนแก่พระภิกษุ-สามเณร ลูกวัดมาโดยตลอด หากรูปใดมีความตั้งใจเรียนและเรียนดี จะจัดหาทุนมอบให้ทุกปีถึงแม้จะมีอายุกว่า ๘๐ ปี อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่ยังคงรับกิจนิมนต์เป็นปกติ ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการี ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลก และให้ยึดศีล ๕ ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตถือเป็นเพชรเม็ดงามอีกรูปของวงการสงฆ์โดยแท้
โดย:ศูนย์ข่าวร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน ฮอต นิวส์ ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าว:นางสาวชยาภัสร์ แสงมี/นางสาวพิกุลแก้ว สระใคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น