วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2567

พิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ วัดหนองกุง

พิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๗  ณ วัดหนองกุง


           วันอาทิตย์ ที่ ๒๐  ตุลาคม  ๒๕๖๗   เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ วิหารสังฆานุภาพ วัดหนองกุง   บ้านหนองกุง   ตำบลหนองกุง  อำเภอน้ำพอง  จังหวัดขอนแก่น  จัดพิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๖๗ โดยมี พระเทพวิสุทธิคุณ  เจ้าอาวาสวัดหนองแวง  พระอารามหลวง  ผู้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  พระครูสุตวชิรานุกูล  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองกุง  ผู้รับผ้ากฐินและปัจจัย  พระสงฆ์    พร้อมด้วย  นายกรชวาลวิชญ์  ชัยพีรวัส  นายอำเภอน้ำพอง  พร้อมภริยา  ประธานฝ่ายฆราวาส  คณะเจ้าภาพร่วม  ชาวบ้าน บ้านหนองกุง   คณะศิษยานุศิษย์วัดธรรมกาย พุทธศาสนิกชนจังหวัดขอนแก่น และต่างจังหวัด ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทอดถวายกฐินสามัคคี  ครั้งนี้

พระเทพวิสุทธิคุณ
เจ้าอาวาสวัดหนองแวง พระอารามหลวง
เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น

พระครูสุตวชิรานุกูล 
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองกุง
  ผู้รับผ้ากฐินและปัจจัย


คณะศิษยานุศิษย์ บูชาธรรม  ๘๐ ปี หลวงพ่อธัมมชโย 

นายกรชวาลวิชญ์  ชัยพีรวัส
นายอำเภอน้ำพอง


นายวิรัตน์  เย็นสบาย
นายกเทศบาลตำบลกุดน้ำใส















































































































           ในการนี้ คณะศิษยานุศิษย์ บูชาธรรม  ๘๐ ปี หลวงพ่อธัมมชโย ได้ร่วมป็นเจ้าภาพทอดถวายกฐินสามัคคีทั่วไทย ๓๐,๐๐๐ วัด พุทธศักราช ๒๕๖๗ 















           ทั้งนี้ กฐิน เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้   โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ไปจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด ดังนั้นกฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ





















































































โดย:ศูนย์ข่าวร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน ฮอต นิวส์ ขอนแก่น

ผู้สื่อข่าว: นายไกรวิชญ์ เกตุษา

เรียบเรียงโดย:นางสาวชยาภัสร์ แสงมี





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น