วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

สกนช.นำสื่อมวลชน เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพเอทานอล

สกนช.นำสื่อมวลชน เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพเอทานอล 

วันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 15.00 น. สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) นำคณะสื่อมวลชน เดินทางศึกษาเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพเอทานอล ณ บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์เชื้อเพลิงชีวภาพจากเอทานอล

          นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่า สกนช. พร้อมคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากเอทานอล ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 28 – 29 เมษายน 2565 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของเชื้อเพลิงเอทานอลที่เป็นส่วนผสมในน้ำมันเบนซินเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แก๊สโซฮอล 95 E20 และ E85 ในปัจจุบัน ซึ่งเอทานอลผลิตจากวัตถุดิบจากพืชเกษตร อ้อยและมันสำปะหลัง โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้สนับสนุนและมีส่วนช่วยในการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อการลดการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิล ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพกระจายสู่ภูมิภาค และมีส่วนช่วยลดปัญหาโลกร้อน ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากเอทานอลของบริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตเอทานอลที่มีศักยภาพของประเทศ อย่างไรก็ดี แม้ว่าบทบาทของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 จะต้องทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยลดการอุดหนุนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพลงภายใน 3 ปี ก็ตาม แต่ก็ต้องคำนึงถึงการปรับตัวของภาคเกษตรกร ผู้ประกอบการเอทานอล และสถานการณ์ของการระบาดของโควิด-19 ประกอบด้วย สกนช. จึงเตรียมขยายการชดเชยออกไปก่อน ซึ่งตามกฎหมายดังกล่าวสามารถขยายเวลาการลดการชดเชยได้ 2 ครั้งๆ ละ 2 ปี ซึ่งการศึกษาดูงานครั้งนี้ จะนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับใช้และเตรียมจัดทำแผนขอขยายการชดเชยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันต่อไป

นายผรินทร์ อมาตยกุล
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการตลาด กลุ่มมิตรผล

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์
ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 





















        นายผรินทร์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการตลาด กลุ่มมิตรผล กล่าวเพิ่มเติมว่า
เอทานอลเป็นพลังงานทดแทนที่ผลิตได้จากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทย ซึ่งมีการพัฒนาและยกระดับขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว และแปรรูป ที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ในทุกกระบวนการผลิต รวมทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับรายได้ของเกษตรกร

โดยตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ที่ประเทศไทยมีการส่งเสริมและใช้เอทานอลเป็นพลังงานทดแทนนั้น สามารถกระจายรายได้สู่เกษตรกรชาวไร่อ้อยจำนวน ล้านราย กว่า 120,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาท จากการเพิ่มมูลค่าให้กับกากน้ำตาล (โมลาส) ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการนำเข้าน้ำมันดิบ 12,000 ล้านลิตร มูลค่า 175,000 ล้านบาท ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 35 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิตเอทานอลตั้งอยู่ใน จังหวัด มีกำลังการผลิตรวม 1.5 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 500 ล้านลิตรต่อปี ใช้วัตถุดิบจากน้ำอ้อยและกากน้ำตาล (โมลาส) ทั้งนี้ เมื่อประเทศไทยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนความยั่งยืน มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065 การสนับสนุนการผลิตและการใช้เอทานอล ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนจากพืชที่ปลูกได้ในประเทศไทยและมีกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว









































ศูนย์ประสานงานรับเรื่องแจ้ง ร้องเรียน ร้องทุกข์ ประสานขอความช่วยเหลือ


ยูทูป: ศูนย์ข่าวร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน ฮอต นิวส์ ขอนแก่น
 เพจ Facebook : ร่วมด้วยช่วยชาวบ้านฮอต นิวส์ ขอนแก่น

252/18 หมู่ 13 ถนนเทพารักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
 ติตต่อลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ 
โทร  063-4715698,062-9055698

“ร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน #ร่วมสร้างสังคมให้น่าอยู่

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น