วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นวัตกรรมเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อพัฒนาการเกษตรของไทยให้เป็น Smart Farmer ลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิต

นวัตกรรมเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อพัฒนาการเกษตรของไทยให้เป็น Smart Farmer ลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิต

ศูนย์ข่าวร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน ฮอต นิวส์ ขอนแก่น



        เวลา  09.30 - 10.00 น. ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  กล่าวต้อนรับ ผู้บริหาร และคณะผู้เข้าร่วมงาน  รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารงานวิจัย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของแผนงาน Spearhead ด้านเศรษฐกิจ ภายใต้แผนงานวิจัยและนวัตกรรขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579 )

       จากนั้น ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการบริหารแผนงานด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ภายใต้แผนงานวิจัยและนวัตกรรมขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579 ) 










 ดร.ณัฐพล รังสิตพล
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
และประธานคณะกรรมการบริหารแผนงานด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ภายใต้แผนงานวิจัยและนวัตกรรมขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579 )

ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ
รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
 

รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์
รองผู้อำนวยการด้านบริหารงานวิจัย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)




















          เวลา 10.00 - 10.30 น. การนำเสนอสรุปผลงานและบริการที่ได้จากโครงการแพลตฟอร์มหุ่นยนต์และยานพาหนะไร้คนขับสำหรับการเกษตรที่มีความแม่นยำเพื่อสร้างฟาร์มขนาดใหญ่เสมือน (Robotics platform and unmanned vehicle for precision agriculture to create a virtual mega farm) ภายใต้
แผนงาน Spearhead ด้านเศรษฐกิจ โดยมีวิทยากร 4 ท่าน ดังนี้

- รศ.ดร.ขวัญตรี  แสงประชารักษ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

- ดร.มหิศร ว่องผาติ กรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด

- นายประวิทย์ ธงชัยระวีวัฒน์ กรรมการ บริษัท โกลบอล ครอปส์ จำกัด

- นายสัณฑวัฒน์ สันติธีรากุล บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด

นายประวิทย์ ธงชัยระวีวัฒน์
กรรมการ บริษัท โกลบอล ครอปส์ จำกัด

ดร.มหิศร ว่องผาติ
กรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด

รศ.ดร.ขวัญตรี  แสงประชารักษ์
 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นายสัณฑวัฒน์ สันติธีรากุล
บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด









         เวลา 10.50 น. แถลงข่าว "งานวิจัยสู่การปฏิบัติ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต อัปเกรดเกษตรอุตสาหกรรมไทย ด้วยผลงานแพลตฟอร์มหุ่นยนต์และยานพาหนะไร้คนขับสำหรับการเกษตรที่มีความแม่นยำเพื่อสร้างฟาร์มขนาดใหญ่เสมือน"  โดยมี 

- ดร.ณัฐพล รังสิตพล  อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

- รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารงานวิจัย หน่วยบริการและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)

- ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

- ดร.มหิศร ว่องผาติ กรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด

- นายประวิทย์ ธงชัยระวีวัฒน์ กรรมการ บริษัท โกลบอล ครอปส์ จำกัด   

             

     















          จากนั้น เวลา 13.00 น. ณ ไร่สาธิตคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารงานวิจัย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการผลักดันงานวิจัยสมาร์ทฟาร์มสู่ไร่อ้อย ภายใต้แนวคิด “วิจัยสู่การปฏิบัติ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต อัปเกรดเกษตรอุตสาหกรรมไทย” โดยรับชมการสาธิตนวัตกรรมใหม่ เครื่องผสมสารอัตโนมัติ โดรนฉีดพ่นอัจฉริยะ และชุดติดตามการเคลื่อนที่ของเครื่องจักร และการทดลองใช้บริการระบบประมวลผลผ่านภาพถ่ายทางอากาศ หรือ “ตาวิเศษ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง ภายใต้แผนงาน Spearhead ด้านเศรษฐกิจ โดยมี สวทช.เป็นหน่วยงานบริหารจัดการและส่งมอบผลลัพธ์ หรือ ODU ช่วยกำกับดูแล และสามารถผลักดันผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงต่อภาคเกษตรอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการส่งออกระดับโลก




          อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธาน Spearhead ด้านเศรษฐกิจ ในประเด็นแผนงานวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และแผนงานระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ รวมถึงนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM)ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงปัจจุบันพบว่าชาวไร่อ้อยกำลังเผชิญกับปัญหาไม่สามารถควบคุมคุณภาพรวมถึงปริมาณการเก็บเกี่ยวได้ ประกอบกับปัญหาคุณภาพของอ้อยต่ำกว่าเกณฑ์และมีความหวานไม่คงที่ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อตันน้ำตาลสูงขึ้น ซึ่งทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลลดลง ดังนั้น การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีบทบาท ในการพัฒนาการเกษตรของไทยให้เป็น Smart Farmer รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อใช้ในการกำหนดรูปแบบแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตการเกษตร โดยการนำใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยแก้ปัญหาการทำเกษตรอย่างถูกต้อง ตลอดจนการจัดการแบบเกษตรแม่นยำ ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนทั้งในด้านวัตถุดิบและเวลาให้กับชาวไร่อ้อยได้นั้น












































          “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้นำนโยบาย DIPROM CARE มาประยุกต์ใช้ผ่านการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม มาเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ทั้งในด้านวัตถุดิบและเวลาให้กับภาคการเกษตร รวมถึงการบูรณาการระหว่างพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยสามารถวิจัยแพลตฟอร์มบริการ FPS (Field Practice Solutions) ได้สำเร็จ เช่น ระบบประมวลผลเพื่อสร้างแผนที่ผลผลิตและแผนที่การระบาดของโรคพืชจากภาพถ่ายทางอากาศ ระบบประมวลผลเพื่อสร้างฐานข้อมูลในระบบภูมิสารสนเทศ (GIS)จากแผนที่ผลผลิต ระบบผสมสารและบรรจุลงถังบรรจุอัตโนมัติสำหรับโดรน ระบบฉีดพ่นสาร แบบแปรผันอัตโนมัติติดตั้งบนโดรนชุด Mobile-KIT และ Mobile Application สำหรับระบุพิกัดแปลงและติดตามกิจกรรมในแปลง และระบบ AI สำหรับเสนอแนะแผนการทำงาน บันทึกและแสดงผลการทำงานของเครื่องจักรเกษตร และแนะนำการให้ปุ๋ยแบบแม่นยำสูงรายแปลงอัตโนมัติ ซึ่งระบบจะช่วยเรื่องการตัดสินใจในงานบำรุงรักษา เก็บเกี่ยว และเชื่อมโยงกับระบบตรวจวัด รวมทั้งมีระบบที่จะสามารถรองรับคำสั่งเพื่อให้เกิดการปรับการปฏิบัติงานในฟาร์มไปตามแผนงานใหม่ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการออกแบบแปลงการปลูก การบำรุงรักษาและอารักขาพืช การเก็บเกี่ยวและการขนส่ง และสามารถปรับรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้บริการแต่ละราย หรือพืชแต่ละชนิด ซึ่งช่วยลดการสูญเสียในด้านคุณภาพของผลผลิต ลดเวลารอคอยที่ไม่เกิดงานและเพิ่มความสามารถของเครื่องจักรได้ เช่น กรณีของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย จะช่วยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตน้ำตาลหรือพลังงานชีวมวลได้มากกว่าร้อยละ 20 คิดเป็น ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปีต่อโรงงาน” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าว

           ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ ยังสามารถกำหนดตารางการเก็บเกี่ยวอ้อยขณะที่อ้อยแต่ละแปลงมีน้ำหนักและความหวานสูงสุด สามารถใช้งานเครื่องจักรเก็บเกี่ยวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้สามารถลดจำนวนเครื่องจักรและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และจัดการให้มีวัตถุดิบอ้อยเข้าโรงงานที่มีคุณภาพและมีปริมาณเต็มศักยภาพการผลิตของโรงงานในแต่ละวัน ลดการเสื่อมสภาพของวัตถุดิบ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย รวมทั้งสามารถลดจำนวนวันที่เปิดหีบ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำตาลต่อตันได้ และจากผลสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้มีการขยายผลไปสู่เชิงพาณิชย์บ้างแล้ว โดยในปัจจุบันมีโรงงานน้ำตาลหลายแห่งสนใจจะจ่ายค่า Service ให้ทีมไปทดลองทำตั้งแต่ปีแรกของโครงการ ส่วนในปีที่สอง จะเน้นไปที่การควบคุมต้นทุนในการผลิตและการจัดการแปลง เช่น การให้ปุ๋ยหรือยาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการจัดการเฉพาะจุด ส่วนปีสุดท้ายจะเป็นการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้เกิดเป็นข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจวางแผนระยะยาว รวมถึงให้ข้อมูลว่าแต่ละวิธีหรือแต่ละทางออก มีต้นทุน มีความเสี่ยงเท่าไหร่ เพื่อให้เกษตรกรหรือโรงงานตัดสินใจต่อไป        





  และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด - 19(COVID-19) ได้มีการตรวจคัดกรอง วัดอุหภูมิก่อนเข้าร่วมงานด้วย

โดย : ศูนย์ข่าวร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน ฮอต นิวส์ ขอนแก่น 
ผู้สื่อข่าว : นางสาวชยาภัสร์  แสงมี, นางสาวพิกุลแก้ว สระใคร
เรียบเรียงโดย: นางสาวชยาภัสร์ แสงมี

     
“ร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน #ร่วมสร้างสังคมให้น่าอยู่


ท่านสามารถติดตามรับฟังการรายงานสถานการณ์ข่าวสารต่างๆได้ ในรายการ

ร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน จันทร์-ศุกร์.  เวลา 14.00 -15.00 น 
ที่สถานีวิทยุ smilefm101http://www.smilefm101.com  ความถี่ FM 101 mHz ขอนแก่น
และ Facebook #ร่วมด้วยช่วยชาวบ้านฮอตนิวส์ขอนแก่น


 ติตต่อลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ 
โทร  063-4715698, 043-047474





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น